วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2554

แนะนำดอกไม้ในงานพิเศษ

งานแต่งงาน กับ ดอกไม้ เป็นสิ่งที่ต้องใช้ร่วมกัน สำหรับ เจ้าสาว และ เจ้าบ่าว ที่มองหาไอเดียในการหารูปแบบในการจัดงานแต่งงานโดยใช้่ดอกไม้ มีดอกไม้ที่เป็นที่นิยมในการใช้ในการจัดงานแต่งงานมาแนะนำค่ะ



คาร์เนชั่น ( Carnation )

ดอกไม้จากเมืองจีนที่มีขายทั้งปี ความพิเศษของดอกคาร์เนชัน คือ มีทุกสีให้เลือกใช้งาน ยกเว้น 2 สี คือ สีดำและสีฟ้า สามารถทนอากาศร้อนได้ดี ราคาไม่แพง


รูปหายากอีกเช่นเคยค่ะ
ไลเซนทัส ( Lysianthus )

มีทั้งปีและหลากสี ทั้งม่วงเข้ม ม่วงขลิบขาว ชมพู ชมพูขลิบขาว เหลือง ครีม พีช ขาว และเขียว เลือกแบบกลีบซ้อนหรือกลีบเดี่ยวก็สวย แถมมีให้เลือก 2 เกรด คือ ฮอลแลนด์ และจีน ซึ่งเป็นที่นิยมกว่าเพราะกลีบดอกสวยและทนกว่า จริงๆดอกนี้นำมาติดผมเจ้าสาวก็ได้ค่ะ สวยไปอีกแบบ ^^



The Snowball perennial grows many large balls of flowers.


แถมค่ะแถม ^^
สโนว์บอล ( Snowball )

ดอกไม้ทรงพุ่มที่มีเพียงสีเดียว คือ สีเขียว โชว์ความสวยด้วยวิธีไล่เฉดสีเขียวจากอ่อนไปเข้มที่สวยไร้เทียมทานมีมากช่วง เดือนมีนาคม - พฤษภาคม มีทั้งเกรดฮอลแลนด์ และของจีนซึ่งมีจำนวนช่อดอกต่อกิ่งน้อยกว่าก็จริงแต่ราคาถูกกว่า






แคลลาลิลี่ ( Calla Lily )

หายากในช่วงหน้าฝน มีให้เลือก 2 แบบ คือ พันธุ์หลอดมีเฉพาะสีขาว และ พันธุ์กรวยมีให้เลือกทุกสี ยกเว้นสีฟ้า ส่วนใหญ่นำเข้าจากจีน ถ้านำเข้าจากฮอลแลนด์จะมีราคาแพงกว่า ในช่วงหน้าหนาวจะมีพันธุ์กรวยสีเหลือง ของโครงการหลวง มาขายในราคาไม่แพง
น่านนนน แถมซะเลย ^^
กุหลาบ ( Rose )

มีให้เลือกใช้ได้ทั้งปี หลายเกรดความสวยและมีหลายราคา ของฮอลแลนด์ ดอกสวย ใหญ่ ก้านตรง เฉาเร็ว ของจีนความสวยย่อมลงมาหน่อย ก้านคดเล็กน้อย แต่ทนอากาศร้อนได้ดี
ถ้าเลือกในช่วงเดือนพฤษภาคม-กันยายนอาจถูกกว่านี้

ไฮเดรนเยีย ( Hydrangea )

 ในเดือนพฤษภาคม-กันยายน จะมีเฉพาะดอกไฮเดรนเยียที่ปลูกในเมืองไทย ซึ่งดอกจะเล็กและมีแค่สีฟ้า แต่ถ้าอยากได้ ดอกใหญ่และหลากสีต้องสั่งจากฮอลแลนด์หรือรอจากเมืองจีน ซึ่งจะเริ่มมีเข้ามาขายตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป และมีให้เลือกหลายสี ทั้งชมพู เขียว ขาว และม่วง
อีกรูปแล้วกันนะคะ รูปหายากจริงๆ ฮ่าๆ
แวกซ์ฟลาวเวอร์ ( Wax Flower )

ดอกไม้แซมแสนหวานจากประเทศออสเตรเลีย มีหลากสีและรูปทรงให้เลือกออกดอกแทบทั้งปี แต่ช่วงที่สวยที่สุด คือ เดือนมิถุนายน-กันยายน แต่ของจีนก็สวยไม่แพ้กัน


การเลือกดอกไม้ในงานแต่ง การเลือกที่ถูกต้องตามฤดูกาล นอกจากจะหาง่ายแล้ว ยังทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย ในวันงานแต่งงานของคู่บ่าวสาวอีกด้วย ทำให้มีงบประมาณไปตกแต่งเพิ่มเติม หรือ นำไปเพิ่มในส่วนอื่นได้อีกด้วย แต่ถ้าเราเลือกดอกไม้ที่หายากในเวลานั้นๆ จะทำให้มีราคาแพง และ อาจไม่เพียงพอในการใช้ตกแต่งงานแต่งของคุณก็เป็นได้ค่ะ

ลิลี่ ( Lily )

เป็นดอกไม้ที่ปลูกได้ในเมืองไทย ทำให้มีใช้กันได้ทั้งปี แถมสวยกว่าดอกลิลี่ ของเมืองจีนเพราะของไทยมีสีขาวกว่า ส่วนสีชมพูก็สดใสกว่า และที่สำคัญ ดอกใหญ่กว่า
แวนด้าและซิมบิเดียม ( Vanda & Cymbidium )

ดอกไม้ตระกูลกล้วยไม้ที่มีให้เลือกใช้กันได้ทั้งปี แวนด้ามีสีให้เลือกหลากหลาย ราคาไม่แพง  ส่วนซิมบิเดียมเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับใช้แทนดอกคัทลียาที่หาไม่ได้ในช่วงหน้าร้อน เพราะถึงแม้ดอกจะเล็กกว่า แต่สวยและทนกว่ามากในขณะที่ราคาพอๆกัน

โพสรูปดอกไม้สวยๆ


เริ่มที่ไฮเดรนเยียกันก่อนเลยค่ะ ^^



ตามมาด้วยดอกกุหลาบสีม่วง ของแท้นะคะ ไม่ตกแต่งทำสีพ่นสีใส่สีตีไข่แน่นอนค่ะ ^^



คาร์เนชั่นค่ะ สวยเนอะ ^^



ตามมาด้วยดอกลิลลี่ค่ะ ^^



แคลล่าลิลลี่ค่ะ ^^

วิธีการปลูกไฮยาซินธ์

และดอกไฮยาซินธ์ปิดท้ายค่ะ ^^


ถ้าสนใจอยากได้รูปสวยๆบอกกันได้นะคะ

ความหมายของดอกไม้

              เพื่อนๆรู้ไหม ? การที่เราจะสื่อความรู้สึก ห่วง รัก หรืออะไรก็ตามแต่ ที่ไม่สามารถพูดออกมาได้ เราก็ใช้ดอกไม้เนี่ยแหละ เป็นสื่อกลางคอยส่งผ่านความรู้สึกค่ะ ดอกไม้น่ะสามารถสื่อความรุ้สึกต่างๆได้มากมาย วันนี้ฉันจะมาแนะนำความหมายของดอกไม้แต่ล่ะชนิดค่ะ ^^




กุหลาบ : คือสื่อของความรักแท้ (แดง ชมพู) ความบริสุทธิใจ (สีขาว ) ความภักดีและซื่อสัตย์ (สีเหลือง)
กลาดิโอลัส : บุคลิกที่เข้มแข็ง
คาร์เนชั่นแดง : ความอนิจจา การมอบดวงใจฉัน
ดอกอัลมอนด์ : ความหวัง
ดอกแอ๊ปเปิ้ล : มอบให้กับบุคคลที่ชอบเป็นพิเศษ
ดาวเรือง : ความรุ่งเรือง
ดอกส้ม : ใช้ในงานแต่งงาน ความเยาวัย ที่แสนหวาน
เดซี่ : แสดงถึงความบริสุทธิ์ใจต่อกัน
แดฟโฟดิล : ความรำลึกถึง และคิดถึง
ดอกรัก : หมายถึงเจ้าบ่าวและเจ้าสาว
ทานตะวัน : การให้ความเคารพต่อผู้ที่เรานับถือ เป็นดอกไม้ของความหวัง ให้ความหวังนั้นประสบความสำเร็จ
ทิวลิปแดง : การบอกรักให้ฝ่ายตรงข้าม
ทิวลิปสลับสี : บอกว่าดวงตาท่านมีเสน่ห์ งดงาม
ทิวลิปสีเหลือง : ถือว่าการหมดหวังในเรื่องความรัก
นาร์ซิสซัส : แสดงถึงความหลงตัวเอง
บัตเตอร์คัพ : แสดงถึงความไร้เดียงสา
ป๊อปxxxสีแดง : ให้ความอุ่นใจ หรือปลอบโยน
เปปเปอร์มินท์ : ให้ความรู้สึกอบอุ่นทางใจ
พริมโรส : แสดงถึงความร่าเริง ความเป็นหนุ่มเป็นสาว
พุดซ้อน : ความรักอันสมบูรณ์ยิ่งยืนนาน
ฟอร์เก็ต มี นอต : แสดงถึงความรักแท้และจริงใจ
แพนซี่ : แสดงถึงความคิดถึงจากใจ
มะลิขาว : ความอ่อนโยน
มะลิเหลือง : แสดงถึงความสง่างาม
ลำดวน : ความเบิกบานแจ่มใส
หญ้าหอม : แสดงถึงการให้กำลังใจเมื่อมีความทุกข์
อะคาเซียสีชมพู : ความเป็นผู้ดี ความสง่างาม
ไอริส : แสดงถึงการมีความในใจที่จะบอก
ไอวี่ : แสดงถึงความจงรักภักดี
ฮอลลีฮอด : แสดงถึงความทะเยอทะยาน
ไฮยาซินธ์ : แสดงถึงเรื่อการบันเทิง การละเล่น ความเบิกบานใจ

รู้อย่างนี้แล้ว เพื่อนๆก็สามารถนำความรู้นี้ไปใช้ได้เลยนะคะ หากยังไม่กล้าบอกอะไรกับใครล่ะก็ ฮะๆ ^^

วันพุธที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2554

TOP !!! 10 อันดับ ดอกไม้อันตรายที่สุดในโลก!!!!

               TOP !!! 10 อันดับ ดอกไม้อันตรายที่สุดในโลก!!!!  0[]0\!!! [มันก็ตกใจเว่อร์เกิน]

อันดับ 10 Narcissus

ดอกนาร์ซิสซัสนี้ ว่ากันว่า มีพิษร้ายแรงมากมาย
มีหลายคนที่สับสนแยกไม่ออกระหว่างดอกไม้นี้กับหัวหอม
แต่ถ้ากินเข้าไปแล้วล่ะก็ เจอดีแน่
ทั้งอาการคลื่นไส้ อาเจียน และท้องร่วงอย่างแรง


อันดับ 9 Rhododendron

เราก็ไม่แน่ใจชื่อภาษาไทยของมันเหมือนกัน
เพราะงั้น เราใช้ชื่อเต็มของมันดีกว่า เกิดอ่านผิดจะแย่ทีเดียว
ต้นไม้นี้มีดอกที่สวย รูปทรงเหมือนกระดิ่ง และจะงอกงามมากในฤดูใบไม้ผลิ
แต่ว่าใบของมันมีพิษร้ายเช่นเดียวกับน้ำหวาน
ถ้าเผลอกินเข้าไป อาจทำให้ริมฝีปากไหม้ได้
จากนั้นก็จะคลื่นไส้ อาเจียน หัวใจเต้นเร็ว
ถ้าหากว่าเผลอกินเข้าไป ให้รีบดื่มน้ำตามมากๆ จะช่วยได้

อันดับ 8 Ficus


ไฟคัส ต้นไม้เล็กๆ ที่มีใบเล็ก และมียางที่มีพิษเหลือร้าย
มันสามารถเติบโตได้หลากหลายที่ แม้แต่ในหม้อเก่าๆก็โตได้
ถ้าหากว่ายางของมันโดนผิวเข้าล่ะก็ จะเจ็บปวดมากทีเดียว
และต้องไปหาหมอเพื่อขอยาทาแก้ปวดแสบปวดร้อน


อันดับ 7 Oleander


ทุกส่วนของต้นไม้นี้เป็นพิษหมด
แค่เผลอสูดควันที่เราเผามันเข้าไป ก็เจออันตรายแล้ว
ถ้าเผลอกินเข้าไปล่ะก็ จะเป็นอันตรายต่อหัวใจและระดับโพแทสเซียมในร่างกายได้

อันดับ 6 Chrysanthemum



โอ้! ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ดอกเบญจมาศจะติดอันดับกับเขาด้วย
แต่ว่าดอกไม้นี้มีมากกว่า 200 ชนิดในสปีชี่ส์เดียว
เพราะงั้นก็ไม่แปลกที่บางชนิดจะมีพิษร้าย
ถ้าอยากรู้ว่าดอกเบญจมาศชนิดไหนมีพิษ
เค้าว่าให้ดูที่กระต่าย เพราะมันจะไม่กล้าเข้ามากิน
แต่ถ้าโดนเข้าไป อาจจะทำให้ผิวหนังไหม้ และต้องหายาทา



อันดับ 5 Anthurium


ถ้าหากว่า เผลอแตะโดนบริเวณไหนของผิวหนังล่ะก็ เสร็จแน่
ดอกไม้นี้ จะทำให้ร่างกายของคุณไหม้
ยิ่งถ้าโดนปากนี่ แย่ที่สุดเลย
หรือถ้ากินเข้าไปนี่ จะทำให้เสียงแหบเสียงแห้ง พูดไม่ได้ยินไปสักพักเลยล่ะ

อันดับ 4 Lily-of-the-valley
.
ว้าว! ชื่อเพราะจังเลย ดอกลิลลี่แห่งหุบเขาเนี่ย
แต่ติดอันดับสี่ได้ เชื่อว่าต้องอันตรายแน่ๆ
เค้าว่า ถ้ากินเข้าไปแล้ว หัวใจจะเต้นแรง คลื่นไส้ อาเจียน
บางคนที่กินมากๆ อาจจะเจอล้างท้องได้นะ


อันดับ 3 Hydrangea


อะไรกัน ไฮเดรนเยียออกจะสวยเนอะ
แต่ไม่น่าเชื่อเลยว่า จะมีอันตรายด้วย
มันสวยก็จริง แต่ถ้ากินเข้าไปล่ะก็
จะเนื้อตัวเย็นเฉียบ ครั่นเนื้อครั่นตัว คลื่นไส้ อยากจะอาเจียน
บางคน อาจจะเกิดอาการช็อคได้เลยด้วยซ้ำไป
เพราะงั้น ดูแต่ตา มืออย่าต้อง นะจ๊ะ



อันดับ 2 Foxglove



ดอกไม้สูงแค่สามฟุต สีสวยงามนี่แหละ อันตรายดีทีเดียว
แน่นอนว่า จะทำให้คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องมาก
และปากไหม้ด้วย ถ้ากินเข้าไปนะ
บางคนก็จะทำให้อัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ
ว่ากันว่า มันฆ่ากระต่ายได้เลยล่ะ


อันดับ 1 Wisteria



ชื่อต้นไม้นี้ แปลกทีเดียวเชียว
แต่ก็นั่นแหละ เค้าบอกว่า ถ้าเผลอกินเข้าไปเมื่อไหร่
ท้องร่วง ท้องเสีย อาเจียน ปวดหัว เป็นไข้ วิงเวียนแน่
และถ้าไปโรงพยาบาลไม่ทัน อาจจะช็อคแหงแก๋ได้เหมือน

ดอกเอื้องแซะ

ดอกเอื้องแซะ




 มีเรื่องเล่าขานเป๋นต๋ำนานของคนหนุ่มคนสาว ที่เฝ้าบ่มฮักและอยู่ในฮีตในฮอย หวังก่อร่างสร้างตั๋ว เข้าของเงินทองจ่งไจ้เขียมนักอีนางเฮย ปี้อ้ายขอลาไกล๋ไปแสวงหาเงินทองของหมั้น แล้วจะฝั้งปิ๊กมาหา ยกยอเอาสูเจ้าเป็นเมียนางจ้างแก้วสาวเจ้าหันดีหันงาม เข้าใจ๋ในเหตุในผล… “ไปเต๊อะปี้อ้ายเหย ข้าเจ้าจะรอ”…จากวันเป๋นเดือน จากเดือนล่วงเลยเป๋นหล๋ายปี๋ ปี้อ้ายคนดี ห่างหาย บ่ามีข่าวมีคราว แต่ด้วยใจ๋ตี่บริสุทธิ์และเปี่ยมด้วยศรัทธา ยึดมั่นถือมั่นในความฮักของสาวเจ้าแม้แต่ปล๋ายก้อย ก็บ่เกยคิดฮ้าย ว่าปี้อ้ายคนดีจะนอกใจ๋ หรือล้มหายต๋ายจาก รอคอยด้วยใจ๋พิสุทธิ์ ยกมือไหว้สาผาธนาคุณผะเจ้า ช่วยชี้แนะนำตาง หื้อปี้อ้ายได้ปิ๊กคืน…
 จ๋นถึงวันเวลาที่นางต้องลาละสังขาร จิตวิญญาณยังผูกพันรอคอย ต๋ายไปแล้ว กล๋ายเป็นหมอกควันไปเกาะ ห่อหุ้ม แฝงจิตอยู่กับต้นดอกเอื้องแซะ เป๋นขนปุยห่อหุ้มกิ่งก้าน ยามเอื้องแซะดอกน้อยบาน กลิ่นหอมอ่อน ๆ จะลอยมาต๋ามลม เหมือนจะได้มาเหน็บแซมเสียบผมยามลมเดือนห้า

เอื้องแซะงามนัก ดอกน้อยสีขาวเรื่อเหลืองอยู่สูงและเป็นของสูงก้าแปงเมืองหายากยิ่งนัก กลิ่นก่อห้อม..ต้องใจ๋ จาวลัวะแต่โบราณนำเอามาเป็นเครื่องบรรณาการถวายแด่เจ้าครองเมือง คนต่ำใต้ลุ่มฟ้า อย่าหมายว่าจะได้ชมอ. มาลา คำจันทร์ ปราชญ์ล้านนา และกวีซีไรต์ ได้กล่าวถึงความสำคัญของเอื้องแซะที่มีต่อวิถีชีวิตของคนล้านนา ว่า ดอกเอื้องแซะนั้นเป็นของสูง หายาก ต้องใช้ความพยายาม นาน ๆ ถึงจะได้เห็น ดังในสมัย รัชกาลที่ 7 เสด็จประพาสเมืองเชียงใหม่ ชาวลัวะชาวดอย ต่างไปหา เอื้องแซะมาถวาย เพราะเป็นเอื้องที่มีกลิ่นหอมนาน ไม่เหมือนเอื้องทั่วไป

นอกจากนี้แล้วเอื้องแซะยังเคยใช้เป็นเครื่องบรรณาการ ระหว่างแม่ฮ่องสอนสู่เมืองเชียงใหม่ และเป็นเครื่องบรรณาการของล้านนาเพื่อมอบให้แก่กรุงรัตนโกสินทร์ ดังนั้นเอื้องแซะจึงเป็นสัญลักษณ์ที่ลึกลับ มีเสน่ห์ เป็นดอกไม้ต้องห้าม เป็นของสูงบนภูสูง.


 มีเรื่องเล่าขานเป๋นต๋ำนานของคนหนุ่มคนสาว ที่เฝ้าบ่มฮักและอยู่ในฮีตในฮอย หวังก่อร่างสร้างตั๋ว เข้าของเงินทองจ่งไจ้เขียมนักอีนางเฮย ปี้อ้ายขอลาไกล๋ไปแสวงหาเงินทองของหมั้น แล้วจะฝั้งปิ๊กมาหา ยกยอเอาสูเจ้าเป็นเมียนางจ้างแก้วสาวเจ้าหันดีหันงาม เข้าใจ๋ในเหตุในผล… “ไปเต๊อะปี้อ้ายเหย ข้าเจ้าจะรอ”…จากวันเป๋นเดือน จากเดือนล่วงเลยเป๋นหล๋ายปี๋ ปี้อ้ายคนดี ห่างหาย บ่ามีข่าวมีคราว แต่ด้วยใจ๋ตี่บริสุทธิ์และเปี่ยมด้วยศรัทธา ยึดมั่นถือมั่นในความฮักของสาวเจ้าแม้แต่ปล๋ายก้อย ก็บ่เกยคิดฮ้าย ว่าปี้อ้ายคนดีจะนอกใจ๋ หรือล้มหายต๋ายจาก รอคอยด้วยใจ๋พิสุทธิ์ ยกมือไหว้สาผาธนาคุณผะเจ้า ช่วยชี้แนะนำตาง หื้อปี้อ้ายได้ปิ๊กคืน…
 จ๋นถึงวันเวลาที่นางต้องลาละสังขาร จิตวิญญาณยังผูกพันรอคอย ต๋ายไปแล้ว กล๋ายเป็นหมอกควันไปเกาะ ห่อหุ้ม แฝงจิตอยู่กับต้นดอกเอื้องแซะ เป๋นขนปุยห่อหุ้มกิ่งก้าน ยามเอื้องแซะดอกน้อยบาน กลิ่นหอมอ่อน ๆ จะลอยมาต๋ามลม เหมือนจะได้มาเหน็บแซมเสียบผมยามลมเดือนห้า

เอื้องแซะงามนัก ดอกน้อยสีขาวเรื่อเหลืองอยู่สูงและเป็นของสูงก้าแปงเมืองหายากยิ่งนัก กลิ่นก่อห้อม..ต้องใจ๋ จาวลัวะแต่โบราณนำเอามาเป็นเครื่องบรรณาการถวายแด่เจ้าครองเมือง คนต่ำใต้ลุ่มฟ้า อย่าหมายว่าจะได้ชมอ. มาลา คำจันทร์ ปราชญ์ล้านนา และกวีซีไรต์ ได้กล่าวถึงความสำคัญของเอื้องแซะที่มีต่อวิถีชีวิตของคนล้านนา ว่า ดอกเอื้องแซะนั้นเป็นของสูง หายาก ต้องใช้ความพยายาม นาน ๆ ถึงจะได้เห็น ดังในสมัย รัชกาลที่ 7 เสด็จประพาสเมืองเชียงใหม่ ชาวลัวะชาวดอย ต่างไปหา เอื้องแซะมาถวาย เพราะเป็นเอื้องที่มีกลิ่นหอมนาน ไม่เหมือนเอื้องทั่วไป

นอกจากนี้แล้วเอื้องแซะยังเคยใช้เป็นเครื่องบรรณาการ ระหว่างแม่ฮ่องสอนสู่เมืองเชียงใหม่ และเป็นเครื่องบรรณาการของล้านนาเพื่อมอบให้แก่กรุงรัตนโกสินทร์ ดังนั้นเอื้องแซะจึงเป็นสัญลักษณ์ที่ลึกลับ มีเสน่ห์ เป็นดอกไม้ต้องห้าม เป็นของสูงบนภูสูง.



ดอกฟอร์เก็ตมีน๊อต For get me not

ดอกฟอร์เก็ตมีน๊อต For get me not


ตำนานดอก Forget-Me-Not "อย่าลืมฉัน"



ดอกไม้ชนิดนี้มีตำนานเกี่ยวข้องกับความทรงจำเกี่ยวกับความรัก…
ครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้วในฝรั่งเศส ในสมัยของอัศวินเสื้อเกราะและนางใน อัศวินผู้กล้าหาญ ได้เดินชมจันทร์กับสาวงามนางหนึ่ง ณ ริมฝั่งแม่น้ำ ยอดหญิงของอัศวินได้มองเห็นดอกไม้เล็กๆขึ้นอยู่ริมตลิ่ง เธอวิงวอนให้เขาลงไปเก็บให้ แต่ขณะที่เขากำลังเอื้อมเก็บดอกไม้ก็พลันลื่นไถลลงไปในแม่น้ำ เสื้อเกราะที่หนักทำให้เขาไม่สามารถว่ายน้ำได้ แต่ก่อนที่เขาจะจมหายไปในกระแสธาร เขาโยนดอกไม้ให้หญิงคนรัก และร้องตะโกนว่า "Ne m'oubliez pas"..อย่าลืมฉัน ดอกไม้ชนิดนี้จึงมีชื่อว่า forget me not ดอกฟอร์เก็ตมีน็อทยังมีความหมายว่ารักแท้ จึงมักปรากฏอยู่เสมอบนการ์ดวาเลนไทน์ที่คู่รักหนุ่มสาวมอบให้แก่กัน

ดอกดาหลา

ดอกดาหลา


ตำนานดอกดาหลา "เรื่องเศร้าๆของรักต่างศาสนา"

เรื่องราวความรักต่างศาสนาทราบว่าเป็นตำนานของคู่รักต่างศาสนา ระหว่างชายไทยกับสาวงาม มาเล (อิสลาม)ทั้งสองพบกัน ตอนที่หนุ่มไทยข้ามไปทำงานยัง ประเทศมาเล และเกิดความรักกับสาวมาเล

แต่ด้วยความที่ต่างกัน ทางศาสนา พ่อแม่จึงมิให้คบหากัน ถึงแม้จะถูกกีดกันระหว่างพ่อแม่แต่นางก็มั้นในรักต่อชายไทย นางมิยอมเป็นของชายใดนอกจากชายที่นางรัก แต่แล้วมีเหตูให้ต้องพรัดพรากแยกจากกัน คือชายไทยนั้นต้องกลับมายังประเทศของตน ก่อนจะจากกันก็สัญญากันไว้ว่าจะกลับมาหาสาวมาเลที่บริเวณชายแดน

นางก็รอแม้ระยะเวลาจะนานแค่ใหนนางก็ยังรอที่ชายแดนมาเล รอการกลับมาของเขารอด้วยความหวังลิบหรีก่อนที่นางจะตรอมใจตายนางก็ยังมารอที่ชายแดนมาเล

ระหว่างที่รอคอย เธอก็อธิฐานว่าหากเกิดอีกชาติให้เกิดมาเป็นดอกดาหลาที่ขึ้นอยู่ตามชายแดนมาเล เพื่อรอหนุ่มคนรักกลับมา